หน้าแรก | เกี่ยวกับเรา | บริการของเรา | เครื่องมืออุปกรณ์ | ติดต่อเรา | กระดานสนทนา |
สายตาสั้นจะกลับเป็นสายตาพอดีเมื่ออายุมากขึ้น | |
ใครผิดใครถูก เดี๋ยวรู้กัน “สายตาสั้นจะกลับเป็นสายตาพอดีเมื่ออายุมากขึ้น”
ผู้ ปฏิบัติงานตรวจวัดสายตาทุกคน คงเคยมี Patient ถามว่า “สายตาสั้นจะกลับเป็นสายตาดีเมื่ออายุมากขึ้นใช้ไหม?” ผู้
คนส่วนมากมักจะเข้าใจว่า ใช่ ถูกต้อง เพราะคงเคยได้เรียนมา หรือได้ยินได้ฟังมาในทำนองนี้ แต่อาจยังไม่เคยได้ยิน ใครอธิบายให้ชัดเจนว่ามันดีขึ้นอย่างไร กระบวนการที่ทำให้มันดีขึ้นเป็นอย่างไร รับรองได้เลยว่าไม่มีใครในโลกนี้อธิบายให้คุณฟังได้ว่าสายตาสั้นจะดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เพราะมันไม่จริง! เป็นเรื่องของความเข้าใจคลาดเคลื่อน
ตอนนี้ขอสรุปก่อนว่า ไม่จริง และไม่ถูกต้องที่คนสายตาสั้นจะกลับเป็นสายตาดี (พอดี) เมื่ออายุมากขึ้น มี 2 ประเด็นหลักที่ทำให้ผู้คนเข้าใจในเรื่องนี้ผิดและคลาดเคลื่อน
ประเด็นที่ 1 “คลาดเคลื่อนในการตีความตำราวิทยาศาสตร์” ท่านที่เรียนหนังสือมาทางสายวิทยาศาสตร์ คงยังจำได้ดีว่า สายตายาวใช้เลนซ์บวก ( + ) สายตาสั้นใช้เลนส์ลบ ( - ) เนื่องจากค่ากำลังสายตาเลนส์ได้ยืมเอาเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์มาใช้ จึงเกิดความสับสนเอาเครื่องหมาย + และ - ของค่ากำลังสายตามาหักล้างกันในเชิงคณิตศาสตร์แต่ความจริงแล้วค่ากำลังสายตาไม่ใช้โจทย์เลขคณิต + , - เป็นเพียงสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่าถ้าเป็นเครื่องหมาย + หมายถึงเลนซ์นูน และถ้าเครื่องหมาย - หมายถึงเลนซ์เว้า นี่เป็นที่มาของความคิดที่ว่า สายตาสั้น เครื่องหมาย - เมื่อต่อมาอายุมากขึ้นสายตายาวใช้เลนซ์เครื่องหมาย + ก็นำเอามาหักกันทางคณิตศาสตร์ซึ่งอาจจะเป็น 0 พอดีก็ได้ แต่ความจริงแล้วมันคนละเรื่องเดียวกัน เรียกว่าคลาดเคลื่อนการตีความตำราวิทยาศาสตร์
ประเด็นที่ 2 “ คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าตาดีขึ้น ” โดยปกติชาวเอเชียทุกคน เมื่ออายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป กล้ามเนื้อในการเพ่งชัด
( Accommodation ) จะเริ่มเสื่อมจะมีอาการเห็นใกล้ไม่ชัด หรือคือเป็นสายตายาวในคนมีอายุนั้นเอง ซึ่งก็ต้องใช้เลนซ์บวก ( + ) เพื่อช่วยในการเพิ่มกำลังเพ่งชัด สรุปแล้วก็คือ เมื่ออายุมากขึ้นประมาณ 40 ปีขึ้นไป ไม่ช้าก็เร็วต้องใส่เลนซ์แว่นบวก ( + ) เพื่อช่วยในการเพ่งชัดกันทุกคนไม่ว่าคนนั้นจะสายตาสั้น, สายตายาว หรือสายตาเอียงอยู่ก่อนแล้วก็ตาม คราวนี้พวกที่สายตาสั้นไม่มากประมาณ -1.00 DS หรือ -2.00 DS เมื่อมีอายุ 4 0 ปีขึ้นไป ก็ต้องใช้แว่นเลนซ์บวก ( + ) ช่วยในการเพ่งชัดเช่นคนทั่วไป แต่สำหรับคนสายตาสั้นไม่มากนั้น เมื่อถอดแว่นออกก็มีเสมือนหนึ่งใส่แว่นเลนซ์บวก ( + ) เข้าไป คนสายตาสั้นจึงสามารถถอดแว่นออกอ่านหนังสือได้อย่างสบาย เพราะได้เลนซ์ แว่น + ช่วยในการดูหนังสือ จะรู้สึกว่าเพื่อนคนที่สายตาสั้นมีสายตาดีกว่าตนเพราะไม่ต้องใช้แว่นช่วยในการดูหนังสือ ซึ่งมันไม่จริงเพราะถอดแว่นเลนซ์ - ออกก็เสมือนกับใส่แว่นเลนซ์ + เข้าไปนั้นเอง
เรื่องรวมทั้งหมดที่จะเขียนในคราวนี้ก็คือเรื่อง ACCOMMADATION AND PRESBYOPIA ( การเพ่งชัด และสายตายาวใน
ผู้สูงอายุ ) นัยน์ตามนุษย์เรามีความสามารถพิเศษมากในเรื่องการเพ่งชัดคือไม่ว่าจะมองไปที่ไกลหรือใกล้ก็สามารถปรับภาพกล้องถ่ายรูประบบ “ AUTO-FOCUS ” แต่นัยน์ตามนุษย์ยอดเยี่ยมมากกว่า
กระบวนการเพ่งชัด ( Accommodation ) พอจะอธิบายอย่างง่ายๆให้เข้าใจได้ดังต่อไปนี้ เมื่อมีภาพที่เห็นไม่คมชัดไปตกลงที่ Retina จะมีกระแสประสาทส่งผ่านไปยังระบบประสาทพวก ซิมทาถีติค ( PARASYMPATHETIC NERVE FIBRE ) ซึ่งก็จะมีการกระตุ้นไปยังกล้ามเนื้อซิเลียอะลี่ ( Ciliary Muscle ) ของตา ทำให้เกิดสิ่งต่อไปนี้
1. มีการหดตัวของ circular และ loungitudinal Fibre ทำให้ ciliary เคลื่อนตัวไปข้างหน้า
2. ความตึงผิวของถุง Crystlline lens ลดน้อยลง
3. ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ Crystlline lens ขนาดเล็กลง
4. มีแรงกดบริเวณรอบข้าง Crystlline lens ทำให้ความโค้งส่วนหนึ่งโก่งตัวงอโค้งมากขึ้น เป็นผลทำให้เกิดเป็นกำลังเลนซ์ +
5. ส่วนกลางของ Crystalline lens จะหนาตัวขึ้น เป็นผลให้ความลึกของ Anterior chamber ลดน้องลง มีผลช่วยให้มีกำลังสายตาเปลี่ยนไป
6. IRIS จะมีการเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนการเกิดเพ่งชัดขึ้นของนัยน์ตาคนเรา ในทางตรงกันข้าม หากมีการกระตุ้นของระบบประสาท ซิมพาถีติค ( SYMP ATHETIC NERVE FIBRE ) คือนัยน์เพ่งชัด จากระยะ 1 เมตรขึ้นไปจนถึง INFINITY ก็จะเกิดขบวนการตรงกันข้ามกันกับที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ Crystalline lens แฟบตังลง เมื่อคนเราเริ่มสูงอายุมากขึ้น ชุดกล้ามเนื้อซิเลียอะลี่ ( ciliary Muscle ) เริ่มเสื่อมลง การยืดหยุ่นก็จะไม่มี ความสามารถในการโค้งงอตัวของ Crystalline lens ก็ไม่มี จึงต้องใช้กำลังสายตาจากภายนอกมาช่วย โดยการใส่แว่นสายตาเลนซ์ + หรือ โดยการถอดแว่นสายตาเลนซ์ - ออก ตอนนี้คงเข้าใจกันอย่างถูกต้องแล้วว่า
“ไม่จริง ! ที่คนสายตาสั้นจะกลับเป็นสายตาพอดีเมื่ออายุมากขึ้น”
การบริหารสายตาเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกับการบริหารร่างกาย คนเราส่วนใหญ่จะละเลยการดูแลและเอาใจใส่กับนัยน์ตาของตนเอง ต่อเมื่อเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยเกี่ยวกับนัยน์ตาขึ้นมาแล้วจึงทำให้คิดได้ว่าเราควรจะถนอมดวงตาว้าเพื่อเก็บไว้ใช้งานได้อีกนานจนถึงตลอดชีวิต
นัยน์ตานั้นเป็นอวัยวะของร่างกายที่เสื่อมเร็วที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับอวัยวะอื่นๆ เช่น เมื่อคนเราอายุ 40 ปี จำเป็นต้องใส่แว่นตาดูใกล้หรือหนังสือ
และเมื่ออายุเลข 60 ปีขึ้นไปแก้วตาจะเสื่อมลงที่เราเรียกว่าเป็นต้อกระจกเหตุที่แก้วตาเสื่อมเป็นเพราะหลายๆอย่างแต่ส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นกับ เราโดยที่เราไม่รู้สึกตัวคือ รังสีแสงอุลตราไวเลต ที่กระทบถูกลูกนัยน์ตาของเราเป็นเวลานานๆแก้วตาจะเสื่อมไป นอกจากนี้คนที่สายตาสั้นมากๆ อาจเกิดเนื่องจากพันธุกรรม พวกนี้อวัยวะของตาจะเสื่อมโดยเฉพาะพวกจอรับภพ นอกจากนี้โรคบางอย่างเช่น เบาหวาน, พาคินสัน จะทำให้เป็นต้อกระจก
การบริหารสายตาช่วยแก้ปัญหาโรคกล้ามเนื้อตาหรือโรคสายตาเสื่อมมาก เพียงแต่ขอให้มีความตั้งใจและอดทนในการบริหาร ท่านก็จะพบกับความสำเร็จอย่างแน่นอน
การบริหารตาแต่ละจุดนั้น หลังจากบริหารเสร็จขอให้หลับพักสายตาและกล้ามเนื้อตาสักครู่จึงจะเริ่มจุดต่อไป การตั้งใจบริหารอย่างมีความอดทนบ่อยๆ ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นเร็วหรือถ้าไม่มีเวลาบริหารตาบ่อยๆ ขอให้ทำในตอนเช้าหนึ่งครั้งและตอนเย็นหนึ่งครั้ง และทุกครั้งที่บริหารขอให้ตั้งใจฝึกอย่างจริงจัง | |
ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2008-04-07 19:33:23 IP : 58.9.79.227 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1368371) | |
PRESBYOBIA ควรเป็น PRESBYOPIA | |
ผู้แสดงความคิดเห็น p (kpreecha-at-sanook-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-12 23:28:11 IP : 119.31.121.72 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1387156) | |
ป.ท.ว.ด.=ป้องกันเเละปราบปรามT.waldo | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป.ท.ว.ด.=ป้องกันเเละปราบปรามT.waldo วันที่ตอบ 2010-08-21 21:00:48 IP : 124.122.233.11 |
[1] |
กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 246847 |