หน้าแรก | เกี่ยวกับเรา | บริการของเรา | เครื่องมืออุปกรณ์ | ติดต่อเรา | กระดานสนทนา |
คุณสมบัติของสายตาดี | |
กลไกเกี่ยวกับสายตาของเรา ที่ทำให้บางคนมีสายตาดีบางคน***นั้น ได้การศึกษาค้นคว้ามาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ในกลางศตวรรษที่ 19 บรรดาจักษุแพทย์เห็นพร้อมกันว่าหน้าที่ของตาซึ่งเกี่ยวกับสายตานี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติสามประการของตา ซึ่งเป็นผลให้สายตาเกิดมีดีและมี***ขึ้นได้ในคนต่างๆกันสิ่งเหล่านี้คือ 1. Mimimum visible ความสามารถที่จะเห็นสิ่งที่เล็กที่สุด 2. Minimum Separable ความสามารถที่แยกจุดออกเป็นสองจุดหรือแยกเส้นออกเป็นสองเส้น 3. Minimum Recognible ความสามารถที่จะอ่านหนังมือตัวเล็กๆ หรือทราบถึงรูปร่างเล็กๆที่ซับซ้อนได้ ผู้อ่านคงจำได้ดีที่คลินิกของจักษุแพทย์มีแผ่นหนังสือตัวขนาดต่างๆ ติดไว้กับฝาผนังมีอักษรหลายๆ ตัวเรียงกันเป็นแถว แถวบนเป็นตัวใหญ่และแถวล่างๆ ลงมาขนาดของตัวอักษรก็เล็กลงตามลำดับ นี่เป็นแบบแผนใช้สำหรับวัดสายตา มีอยู่หลายแบบด้วยกัน เช่นอักษรฝรั่งหรือดัดแปลงมาเป็นอักษรไทยก็มี สำหรับเด็กเล็กก็มีรูปวัตถุง่ายๆ เช่น นก สุนัข เรือ เป็นต้น แบบนี้เรียกว่า Test Type ตัวอักษรสองตัวย่อมแตกต่างกันในเส้นตั้งหรือเส้นนอนหรือตำแหน่งของจุด ถ้า Minmum Recogible ของใครดีคือเล็กมากก็ย่อมจำแนกตัวอักษรเล็กได้ดีกว่า แต่ของใครใหญ่หรือ***กว่าก็จะเห็นได้ว่าในแถวตัวเล็กๆ ไม่สามารถดูเป็นตัวอักษรได้อาจเห็นเป็นจุดดำๆ เรียงกันเป็นแถวก็ได้ทั้งนี้ เนื่องจากความสามารถของตา ที่แยกจุดอ่อนเป็นสองสองจุดหรือแยกเส้นออกเป็นสองเส้นได้***กว่า สายตาของเขาก็***กว่าผู้อื่น การอธิบายความสามารถหรือความเที่ยงตรงของสายตา ในสมัยก่อนเราใช้หลัก Mosaic Theory ในสมัยหนึ่งเข้าใจว่าเยื่อประสาทตาของตา ซึ่งเป็นส่วนที่รับรู้สึกแสงนั้นประกอบขึ้นด้วยเซลล์รับความรู้สึกแสง เรียงตัวกันเป็นลักษณะดังรูปและถ้าแต่ละตัวของเซลล์เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดสำหรับรับรู้สึกแสง ถ้าหากว่า (ก) และ (ค) รับความรู้ทางแสง แต่ตัว (ข) ซึ่งอยู่ระหว่าง (ก) และ (ค) ไม่รู้สึก เขาก็สามารถจำแนกออกได้ว่ามีจุดสองจุด แต่ถ้าจุดนั้นเล็กลงไปจนกระทั่งตัว (ก) และ (ข) รับความรู้สึกพร้อมกัน สองจุดจะกลายเป็นจุดรวมกันไม่สามารถจะจำแนกได้ว่าจุดนั้นมีสองจุด เป็นต้น แต่ต่อมาพบว่าเซลล์รับจำแสงนั้นมีขนาดเล็กกว่าตามที่เข้าใจกันในสมัยนั้น ซึ่งเมื่อเป็นจริงเช่นนี้สายตาของเราควรจะอ่านแบบแผนวัดสายตาได้เล็กกว่าแบบใช้กันทุกวันนี้ถึงสองเท่า มาในสมัยนี้ความเข้าใจเช่นนั้นจึงล้มไปมีการอธิบายกันขึ้นมาใหม่อีกซึ่งเข้าใจว่าถูกต้องตามหลักของวิชาแสงสว่าง ตามสมัยใหม่นี้สายตาดีหรือ***นั้นอธิบายโดยความแตกต่างกันในความรุนแรงของการกระตุ้นของแสงหรืปริมาณพลังงานของแสงที่ผ่านมากระตุ้น เมื่อขยายประสาทตามีพลังแสงสว่างมากระตุ้นส่วนที่สุดนั้นมีความรู้สึกขึ้นแต่ความรู้สึกนี้จะน้อยลงไปตามลำดับเมื่อห่างจากจุดนั้นออกไปรอบๆ เมื่อเป็นเช่นนี้จะพิจารณาจากรูปจะเห็นได้ว่า ถ้าหากว่าแสงออกมาจากรูปวงแหวนจะกระตุ้นเยื่อตาข่ายประสาทตาสองบริเวณด้วยกันคือ C และ G ซึ่งใกล้บริเวณนี้จะมีความรู้สึกขึ้นมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันบริเวณ B.D. , F.H มีความรู้สึกน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ C กับ G ดูคล้ายกับว่ามีภูเขาสองลูก ระหว่างเขาสองลูกมีเหวและเหวนี้มีความลึกมากพอที่จะทำให้ G กับ G ถูกแยกออกมาสามารถรู้ว่าจุดกระตุ้นนั้นเป็นสองจุดหรือสองเส้น นั่นคือความสามารถที่คนเราใช้แยกตัวอักษรหรือรูปเล็กๆ ในแผนผังได้ถูกต้อง นี่เป็นหลักของการวัดสายตาในสมัยใหม่ ความจริงอันนี้ผู้อ่านอาจจะเข้าใจดีขึ้นเมื่อนึกถึงเครื่องโทรทัศน์ เครื่องบางชนิดโฆษณากันว่าจอภาพมีกี่เส้น มากกว่าแบบเก่าเท่านี้เท่านั้นนั่นหมายความถึงโทรทัศน์นั้นสามารถแยกเส้นออกมามากขึ้นนั่นเองคือคิดเป็นสายตาของเครื่องแล้วจะละเอียดขึ้น และภาพที่เห็นชัดขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง | |
ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2008-03-15 18:10:48 IP : 58.9.89.249 |
กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 247654 |