ReadyPlanet.com


ประวัติในการทำกระจกแว่นตา


 

ประวัติในการทำกระจกแว่นตา
 
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแว่นตา
 
          เกี่ยวกับวิวัฒนาการของเรื่องแว่นตานี้ ข้าพเจ้าได้สืบเสาะมาโดยทางหนังสือต่าง ๆ และผู้รู้หลายท่านการเริ่มต้นของแว่นตาก็ต้องมาจากหินและกระจกต่าง ๆ เสียก่อน ในสมัยโบราณเท่าที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ เชื่อกันว่าพวกพีนิเชี่ยนซึ่งอาศัยอยู่ทางฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก แถบประเทศซีเลีย เริ่มสังเกตเองว่า หลังจากที่เขาหุงหาอาหารตามริมฝั่งทะเล***นของเขามักมักจะได้เศษแก้วหรือวัตถุคล้ายแก้วปะปนกับกองเถ้าถ่านบนทราย สมัยนี้เราก็ทราบแล้วว่าทรายเป็นองค์ประกอบสำคัญอันหนึ่งในการทำกระจก เรื่องราวนี้บันทึกไว้ตั้งแต่ก่อนคริสต์ศักราชประมาณ 3,000 ปี นอกจากจะมีคนช่างสังเกตพวกนี้แล้วยังมีพวกอื่น ๆ อีก แต่ว่าเมื่อแรกที่พวกเขารู้จักแก้วและกระจกก็คงยังไม่มีความคิดมาทำเป็นแว่นสายตา เขาใช้เป็นเครื่องประดับ
          การวิวัฒนาการของแก้วคงจะมีการทดลองในสมัยโบราณมากพอสมควรทีเดียว เราลองข้ามมาทางอียิปต์***ง นักโบราณคดีได้ขุดพบแก้วเจียระไนชนิดต่างๆ ในสุสานบางแห่งเชื่อว่าก่อนคริสต์ศักราชราว 2,300ปี
          นอกจากนั้นยังมีนักประวัติศาสตร์โรมันบันทึกถึงว่า การใช้แร่ธาตุต่าง ๆ ผสมเพื่อทำแก้วบริสุทธิ์ขึ้น และยังบันทึกอีกถึงช่างชาวซีเรียหรือพวกฟินิเชี่ยนโบราณว่ามีความรู้เรื่องกระจกและการทำนักโบราณคดีมีหลักฐานยืนยันว่าชาวซีเรียคงจะเป็นชาติแรกที่รู้ศิลปะถึงการเป่าแก้วให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ เพราะว่ามีวัตถุโบราณเหล่านี้เซ็นชื่อ โดยใช้ภาษาซีเรียโบราณที่ขุดพบได้
          สำหรับแก้วที่สามารถเจียระไนจนใสนั้นเชื่อกันว่าคงจะมีมาก่อนคริสต์ศักราชประมาณ 600ปี มาแล้วโดยชาวอียิปต์ได้เรียนรู้และค้นคว้า และเมื่อมารวมกับความรู้ถึงการเป่าแก้วเข้าด้วย ก็มีวัตถุโบราณที่ทำด้วยแก้วในหลายชิ้นที่ขุดพบได้ในสมัยปัจจุบัน
          เราคงจะเคยได้ยินชื่อ อเล็กซานเดอร์มหาราชกษัตริย์องค์นี้ของกรีซเก่งมาก รบชนะมากมายเมื่อรบชนะก็ต้อนพวกมีความรู้ด้านต่าง ๆ มารวมกันในอาณาจักรอเล็กซานเดรีย มีช่างกระจกจากที่ต่าง ๆ มารวมกัน ตามความเข้าใจของข้าพเจ้าก็คงจะเกิดความคิดในการทำกระจกต่าง ๆ กัน เมื่อไอเดียหลายอย่างมารวมกัน ก็ได้ไอเดียใหม่ดีกว่าเดิม ในสมัยเริ่มแรกจนถึงสมัยอเล็กซานเดอร์มหาราชเรื่องกระจก, เลนส์แว่นตา,สายตายังไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้น อย่างที่กล่าวตั้งแต่แรกแล้วว่ากระจกหรือแก้วคิดค้นเพราะความมีประกายแวววาวของมัน ต้องเอามาทำเครื่องประดับต่าง ๆ มากกว่า
          พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชตีได้เมืองต่าง ๆ เลยมาจนเกือบถึงประเทศอินเดียศาสตร์ต่าง ๆ ก็แพร่ไปทั่วในเรื่องกระจกของเราเท่าที่ประเทศอินเดียมีจารึกไว้ว่ามีกระจกเงาและแก้วหินต่าง ๆ มาตั้งแต่ก่อนคริสต์ศักราช 140 ปี นั่นคือประมาณ 2,276 ปี มาแล้วถ้านับถึงปัจจุบันประเทศใกล้เคียงกับอินเดียคือประเทศจีนตามประวัติศาสตร์ของจีนเกี่ยวกับการทำกระจกมีน้อยมากแต่ก็มีหลักฐานอ้างอิงจากการทำกระจกมาก่อนคริสต์ศักราช 140 ปี หรือประมาณ 2,000 กว่าปี ก่อนในราชวงศ์ฮั่น สำหรับประเทศไทยในสมัยนั้นยังไม่มีประวัติศาสตร์จารึกว่ามีความรู้เรื่องกระจกเลย
          ตอนนี้เราก็สรุปทีหนึ่งก่อนว่า การทำกระจกสมัยก่อนคริสต์ศักราชนั้นเริ่มแรกคงจะมาจากพวกฟินิเซีย ซึ่งปัจจุบันคงเป็นแถบ ๆ ประเทศซีเรีย, อาหรับ แล้วก็ไปพวกอียิปต์โบราณ ต่างจากนั้นก็พวกโรมันและกรีซ แพร่ไปทางอินเดียกับจีนสายหนึ่ง อีกสายหนึ่งก็ไปทางยุโรป คือ เยอรมัน, อังกฤษ, รัสเซีย
          ทีนี้เรามาดูเรื่องของสายตาที่เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้เลนส์ดู***ง ประวัติศาสตร์ได้บันทึกเกี่ยวกับเรื่องของการเห็นว่า คนโบราณเขาก็สงสัยทำไมจึงเห็น เช่น นักปราชญ์ชาวกรีกชื่อ พลาโต ว่าที่เราเห็นเพราะมีดวงไฟจากตาลอยไปกระทบกับดวงไฟของวัตถุต่าง ๆ นักปราชญ์ชาวกรีกอีกคน อริสโตเติ้ล ว่าถ้าเป็นอย่างที่ว่าทำไมกลางคืนจึงไม่เห็นและอะไรอื่น ๆ อีก นักวิทยาศาสตร์สมัยโบราณที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มี อาร์คีมีดิส อีกคนเขาบันทึกเรื่องทรงกลม,ทรงกระบอก และโค้งต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องของกระจก
          บุคคลที่ควรได้รับการยกย่องอีกผู้หนึ่ง คือ อัลฮาเซ็น เป็นชาวอาหรับเขียนหนังสือระหว่างปี ค.ศ. ที่ 1000 เกี่ยวกับเรื่องของการเห็น,ทฤษฎีของแสงอื่น ๆ อีกมาก
          ทีนี้เรามาดูว่าทำไมแว่นตาจึงมามีบทบาทสำคัญอยู่ทุกวันนี้ เชื่อกันว่ามีอยู่ 2 เรื่องซึ่งคงเป็นจุดเริ่มต้น ก็คือ เรื่องของกระดาษและเรื่องของการพิมพ์ เมื่อมีการพิมพ์หนังสือก็ต้องอ่านต้องดูมากขึ้น เรื่องกระดาษนั้นคงมีมาแต่สมัยโรมันแล้ว และชาวจีนก็สามารถทำกระดาษได้เอง ต่อมาก็แพร่ไปทางอาหรับ ส่วนการพิมพ์หนังสือเชื่อกันว่ามี 2 ประเทศ ที่เป็นเจ้าตำรับประเทศจีน และเยอรมัน
          จากบันทึกของมาร์โคโปโล ปี ค.ศ.1270 เขียนเมื่อเดินทางไปยังจีนว่าเขาเห็นพวกผู้ดีและชนชั้นผู้มีอำนาจในจีนใส่แว่น แต่เขาคิดว่าเป็นเครื่องประดับ เรามาดูจากประวัติของจีนจะพบว่าในสมัยโบราณนั้นพวกผู้ดีมีตระกูลเท่านั้นที่อ่านเรียนหนังสือได้ และเข้าใจว่าแว่นตาสมัยแรก ๆ ที่คิดค้นก็เพื่อต้องการดูใกล้ก่อน คือเป็นแว่นขยายนั่นเอง และนอกจากนั้นในสมัยขงจื้อ ก็มีบันทึกเกี่ยวกับการใช้แว่นที่เป็นหินสีต่าง ๆ เพื่อกันแดดและส่วนมากหน้าเรียบ ที่เราเคยได้ยินคำว่า จุยเจียที่ชาวจีนเรียกกันนั้นเอง
          บุคคลสำคัญในยุโรป คือ โรเยอร์ เบคอน เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเลนส์ สำหรับอ่านหนังสือ และเขียนรูปของเลนส์นูนไว้ด้วยในหนังสือของเขาเมื่อปี ค.ศ.1272 เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบแว่นตาในกลุ่มพวกแรกในโลกประเทศอื่น ๆ ในยุโรปอีกหลายประเทศที่ตื่นตัวกันมากเกี่ยวกับการใช้เลนส์เพื่อการมองเห็นชัดขึ้นนี้ก็มี สเปน, อิตาลี, เยอรมัน, เนเธอร์แลนส์ เป็นต้น ในอิตาลีเขามีหลุมฝังศพของคนหนึ่งชื่อว่า ชาลวิโน มีบันทึกว่าเขาเป็นคนแรกในการประกอบแว่นตาประมาณปีค.ศ.1317 แต่เราก็ยังไม่มีหลักฐานอ้างอิงมากไปกว่านี้
          สรุปประวัติแว่นตาเริ่มต้นเสียหน่อยตรงนี้ เราจะเห็นว่าไม่มีชนชาติใดที่สามารถพิสูจน์ว่าเป็นต้นตำหรับของแว่นตาอันแรกของโลก แต่ก็มีหลักฐานยืนยันว่าแว่นตานี้คงเริ่มวิวัฒนาการมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยชนชาวต่าง ๆ ก็มี จีน, อังกฤษ,เยอรมัน, อิตาลี, สเปน, เนเธอร์แลนด์ เหล่านี้เป็นต้น โดยที่ใช้เป็นแว่นแลนส์นูนก่อนแน่ และเลนส์พวกนี้เจียมาจากผลึกของแก้วไม่ใช่กระจก และกรอบแว่นก็มีหลายแบบหลายอย่าง แต่ไม่มีผู้ใดที่สามารถบันทึกว่าเป็นคนแรกของโลกในการทำกรอบแว่น
          ทีนี้เรามาเริ่มเรื่องราวต่อไป เมื่อ ปี ค.ศ.1551 ก็มีชาวอิตาลีชื่อดูเอลโล บันทึกว่าการเห็นสามารถช่วยให้ชัดขึ้นได้ถ้ามองผ่านรูเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฟินโฮลร์ (Pin Hole) ปัจจุบันนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ค้นคว้าอะไรต่อไปอีก ที่มีชื่อในประเทศอิตาลี คือ ลีโอนาโด ดาวินซี ใน ค.ศ.1600 ซึ่งได้ค้นคว้าเรื่องเลนส์และแสง แต่ก็ไม่ได้ตีพิมพ์สิ่งต่าง ๆ มากนัก

คัดจากหนังสือสมาคมส่งเสริมวิชาการแว่นตาแห่งประเทศไทย



ผู้ตั้งกระทู้ Admin กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ :: วันที่ลงประกาศ 2009-03-07 10:13:17 IP : 58.9.77.145



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.